Abaktsus of Raw Material Inventory Control by Forecasting Demand: Case Study of Hapsburg Co., Ltd

โดย นพดล ขันเงิน

ปี 2552

บทคัดย่อ

การค้นคว้าอิสระนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบการควบคุมวัตถุดิบคงคลังของบริษัท แฮพส์เบอร์ก จ ากัด โดยที่ต้นทุนการควบคุมวัตถุดิบและปริมาณวัตถุดิบคงคลังลดลง โดยมีขั้นตอนการศึกษา คือ ท าการแบ่งประเภทของวัตถุดิบจ านวน 45 ชนิด ส าหรับผลิตประตูหน้าต่าง UPVC โดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์แบบ ABC เพื่อหาวัตถุดิบประเภท A ซึ่งมีมูลค่าการใช้งานคิดเป็นร้อยละ 60 – 80 เปอร์เซ็นต์ ของมูลค่าการใช้งานทั้งหมด แล้วจึงใช้วิธีการพยากรณ์ 4 วิธีคือ การพยากรณ์โดยวิธีง่ายบริสุทธ์ การพยากรณ์โดยใช้วิธีแนวโน้มแบบเส้นตรง การพยากรณ์โดยวิธี ถัวเฉลี่ยเคลื่อนที่ และการพยากรณ์โดยใช้วิธีปรับเรียบเอกโปเนนเชี่ยล เพื่อพยากรณ์หาความต้องการต่อปีของวัตถุดิบประเภท A ซึ่งจะน าค่าพยากรณ์มาแทนในตัวแบบการสั่งซื้อเดิมของบริษัทโดยใช้ตัวแบบ EOQ เพื่อเปรียบเทียบจุดสั่งซื้อที่เกิดขึ้นกับตัวแบบเดิมโดยเปรียบเทียบกับการสั่งซื้อจริงของ ปี 2552 และท าการวิเคราะห์ความไว เพื่อหาค่าที่เหมาะสมในการสั่งซื้อแต่ละครั้ง

ผลการค้นคว้าอิสระครั้งนี้ พบว่าในการใช้เทคนิคการวิเคราะห์ ABC สามารถแบ่งวัตถุดิบประเภท A ได้ 9 ชนิด ซึ่งมีมูลค่า การใช้งานคิดเป็นร้อยละ 74.88 เปอร์เซ็นต์ เมื่อแทนค่าพยากรณ์ในตัวแบบการสั่งซื้อเดิมของบริษัทพบว่าจุดสั่งซื้อโดยรวมลดลง และปริมาณการสั่งซื้อลดลงเมื่อน ามาเปรียบเทียบกับการสั่งซื้อจริงของปี 2552โดยคิดเป็นจ านวนเงินต่อปี 3,025,724 บาท หรือลดลงร้อยละ 12.37 เปอร์เซ็นต์ และเมื่อคิดเป็นจ านวนหน่วยลดลงทั้งสิ้น 13,812 หน่วยหรือลดลงร้อยละ11.23 เปอร์เซ็นต์ เมื่อน ามาวิเคราะห์ความไว ของ EOQโดยจะใช้การทดลองเปลี่ยนค่าใช้จ่ายในการสั่งซื้อต่อครั้งจากค่า 100 เป็น 105 110 115 120 โดยพิจารณาค่าที่เปลี่ยนแปลงไปจะพบว่าทุก ๆ 5 บาทที่เพิ่มขึ้น จุดสั่งซื้อจะเพิ่มขึ้นจากเดิม ประมาณ 2.38 เปอร์เซ็นต์ซึ่งในการประมาณการต้นทุนจะยอมรับได้ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%

This independent study aimed to increase efficiency of inventory control system of raw material at Hapsburg Co., Ltd. by decreasing cost and quantity of raw material inventory. The study procedures were to classify raw materials into 45 types for UPVC doors and windows production by using ABC analysis technique to find raw material types A with the usage value of 60-80% of total usage value. The four forecasting methods including simple, linear trend, moving average, and exponential smoothing were used to forecast yearly demand of raw material type A. The forecasting values were used in the typical company ordering models by using EOQ model to compare order point from the typical model with real order point in 2009. The fast analysis was used to find the optimization reorder values for each time.

The independent study results found that the ABC analysis technique was able to classify raw materials type A into 9 types with the usage values of 74.88% and the calculation results from the company typical order model found that the total reorder point was decreased. In comparison with real order in 2009, the order quantity was decreased by 3,025,724 baht per year which was 12.37% and total decreasing units were 13,812 units which were 11.23%. The fast analysis results of EOQ by changing ordering cost per time from 100 to 150, 110, 115, and 120, considering the changing value for each increasing 5 baht, the order point was increased by 2.38% on average and the acceptable cost estimation was at the significant level of 95%.

 

DOWNLOAD : Abaktsus of Raw Material Inventory Control by Forecasting Demand: Case Study of Hapsburg Co., Ltd