The Analysis of the Relationship of Factors related to Size and Nationality of the Company and Level of Tax Planning in Real Estate Business

โดย เยาวนารถ เพียรธนะกูลชัย

ปี 2552

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษารูปแบบของการวางแผนภาษีอากรของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์บางรูปแบบ และศึกษาปัจจัยด้านขนาดและสัญชาติของกิจการว่ามีผลต่อระดับการวางแผนภาษีอากรระดับรุนแรงและระดับต ่า กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นบริษัทจ ากัดจดทะเบียนกับส านักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดปทุมธานี ณ 31 ธันวาคม 2551 เป็นจ านวนทั้งสิ้น 88 รายโดยใช้โปรแกรมวิเคราะห์เชิงพรรณนา และ Chi-Square Test : X[superscript2]

จากการศึกษาพบว่า บริษัทอสังหาริมทรัพย์ มีการวางแผนในระดับรุนแรง จ านวน 31 บริษัท หรือ ร้อยละ 35 ได้แก่ การขายหุ้นหรือสิทธิการเช่าในต่างประเทศ การตั้งหน่วยภาษีในดินแดนก าบังภาษี หรือประเทศที่มีอนุสัญญาภาษีซ้อน และก าหนดสัดส่วนผู้ถือหุ้น ต่างชาติให้มีสิทธิ์ในเงินปันผลมากกว่าคนไทย บริษัทอสังหาริมทรัพย์มีการวางแผนภาษีระดับต ่า จ านวน 7 บริษัท หรือ ร้อยละ 8 โดยมีการแยกหน่วยภาษีในประเทศไทย และบริษัทอสังหาริมทรัพย์ จ านวน 50 บริษัท หรือ ร้อยละ 65 โดยการรับรู้รายได้ตามเกณฑ์สิทธิ และปฏิบัติตามประมวลรัษฎากร

ผู้วิจัยได้ศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อระดับการวางแผนภาษีอากร ใน 2 ด้าน ได้แก่ ปัจจัยด้านขนาดของบริษัท เป็นบริษัทขนาดใหญ่ และ บริษัทขนาดเล็ก ปัจจัยด้านสัญชาติ แบ่งเป็น บริษัทสัญชาติไทย และบริษัทสัญชาติต่างชาติ จากผลการทดสอบทางสถิติ จึงสรุปได้ว่า ปัจจัยด้านขนาดของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ มีผลต่อระดับการวางแผนภาษีอากร ณ ระดับนัยส าคัญ 0.05 โดยบริษัทขนาดใหญ่ มีระดับการวางแผนภาษีอากรในระดับรุนแรง ส่วนบริษัทขนาดเล็กมีระดับการวางแผนภาษีอากรในระดับต ่า และผลการทดสอบปัจจัยด้านสัญชาติของบริษัทอสังหาริมทรัพย์มีผลต่อระดับการวางแผนภาษีอากร ณ ระดับนัยส าคัญ 0.05 โดยบริษัทสัญชาติต่างชาติ มีระดับการวางแผนภาษีอากรในระดับรุนแรง ส่วนบริษัทสัญชาติไทยมีระดับการวางแผนภาษีอากรในระดับต ่า ผลการวิจัยจึงชี้ให้เห็นว่า ขนาด และสัญชาติของกิจการมีผลต่อระดับการวางแผนภาษีอากรของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดปทุมธานี

จากปัจจัยที่มีผลต่อระดับการวางแผนภาษีอากรดังกล่าว สอดคล้องกับแนวคิดลักษณะธุรกิจที่มีการวางแผนภาษีอากร ว่าการวางแผนภาษีอากรมักนิยมกระท าในกิจการขนาดใหญ่และกิจการข้ามชาติ นอกจากนั้นผลการศึกษายังชี้ให้เห็นว่าผู้ประกอบการในท้องถิ่นได้มีการวางแผนภาษีอากรทั้งในระดับต ่า และระดับรุนแรง ซึ่งท าให้ผู้ก ากับดูแลการเสียภาษีอากรทั้งภาครัฐ ซึ่งได้แก่ กรมสรรพากร ภาคเอกชน ซึ่งได้แก่ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต และผู้สอบบัญชีภาษีอากร จ าเป็นที่จะต้องศึกษาให้เข้าใจถึงรูปแบบการธุรกิจ และรูปแบบการวางแผนภาษีอากรในปัจจุบันและปรับตัวให้เข้ากับรูปแบบทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป

This research is aimed at studying certain patterns of tax planning in real estate business, in particular, the effect of factors related to size and nationality of business on the level of tax planning (aggressive tax planning vs. conservative tax planning). Representative samples in this study included 88 limited companies registered as of December 31, 2008 with the department of business development in Pathum Thani province. The analysis utilized descriptive statistics and Chi-Squares Test: X[superscript2].

It was found from the study that 31 real estate companies (35 percent) utilized tax planning at an aggressive level which included selling shares and leaseholds overseas, establishing tax entities in tax havens or the countries with double taxation treaties and setting higher dividend payment for foreign shareholders than Thai shareholders. There were 7 real estate companies (8 percent) utilized tax planning at a low level by separating tax entities domestically, and 50 real estate companies (65 percent) utilized tax planning at a low level by recognizing incomes on accrual basis and complying with the revenue code.

The researcher studied factors affecting the level of tax planning in two aspects, i.e. (1) size of the companies: large companies vs. small companies and (2) nationality of the companies: Thai companies vs. foreign companies. Statistical tests indicated that size of real estate companies was a significant factor affecting the level of tax planning at significant level of 0.05, i.e. large companies tended to utilize tax planning at an aggressive level whereas small companies utilized tax planning at a low level. Likewise, the nationality of real estate companies was another factor affecting the level of tax planning at a significant level of 0.05, i.e. foreign companies utilized tax planning at an aggressive level whereas Thai companies utilized tax planning at a low level. This research suggested how size and nationality of real estate business are important factors affecting the levels of tax planning.

The influential factors to the level of tax planning found in this study were in line with the premise that tax planning is usually done in large enterprises and transnational corporations. Moreover, the results from this study also showed that local entrepreneurs conduct both low-level and aggressive tax planning. Therefore, it is necessary for not only related governmental organization such as the revenue department but also private organizations such as certified public accountants and tax auditors to understand the business patterns and tax planning in order to adapt themselves to the changing patterns of business nowadays.

 

DOWNLOAD : The Analysis of the Relationship of Factors related to Size and Nationality of the Company and Level of Tax Planning in Real Estate Business