Audio Tales for Visually Impaired Student
นักวิจัย ศักดา ส่งเจริญ
ปีที่จัดพิมพ์ 2558
บทคัดย่อ (Abstract)
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อพัฒนานิทานเสียงเพื่อความบันเทิงโดยสอดแทรกความรู้และคุณธรรม สำหรับนักเรียนพิการทางการมองเห็น ระดับประถมศึกษาปีที่ 1-6 2) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนพิการทางการมองเห็นที่มีต่อการฟังนิทานเสียง ระดับประถมศึกษาปีที่ 1-6 โดย มีวิธีการวิจัยคือ ผู้วิจัยได้พัฒนานิทานเสียง โดยสังเคราะห์เสียงเอฟเฟค เสียงดนตรีประกอบ ด้วย โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพื่อนำมาประกอบในนิทานเพื่อสร้างอรรถรสในการฟัง และสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ของนักเรียนผ่านเสียงที่สังเคราะห์ขึ้น จากนั้นนำไปให้นักเรียนฟัง และสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการรับฟัง ผลการวิจัยพบว่า ความพึงพอใจของนักเรียนพิการทางการมองเห็นที่มีต่อการฟังนิทานเสียงมี ค่าเฉลี่ย 4.58 อยู่ในระดับดีมาก
คำสำคัญ: นิทานเสียง, ผู้พิการทางสายตา, สังเคราะห์เสียง
วัตถุประสงค์ของโครงการวิจัย
- เพื่อพัฒนานิทานเสียงเพื่อความบันเทิงโดยสอดแทรกความรู้และคุณธรรม ส าหรับนักเรียนพิการทางการมองเห็น
- เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนพิการทางการมองเห็นที่มีต่อการฟังนิทานเสียง ระดับประถมศึกษาปีที่ 1-6
ขอบเขตของโครงการวิจัย
- ด้านเนื้อหา นิทานเสียงมีทั้งสิ้น 20 เรื่อง ระยะเวลาเรื่องละ 5-10 นาที ขอบเขตของเนื้อหา นั้น เป็นนิทานเสียงที่แต่งขึ้นใหม่ทั้งหมดส าหรับนักเรียนในระดับประถมศึกษาปีที่ 1-6 ตามหลักการ สร้างนิทาน ที่ประกอบด้วยเรื่อง โครงเรื่อง ตัวละคร เสียงบรรยาย เสียงพากษ์ เสียงประกอบ เป็นต้น โดยผ่านการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญ เนื้อหาสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม และความรู้ เช่น ความกตัญญู พิษภัยของอบายมุข การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การยอมรับความเห็นต่าง การยอมรับในความต่างระหว่างบุคคล เป็นต้น
- ด้านเทคนิค ในการนิทานเสียงเพื่อปลูกฝังคุณธรรมด้านต่างๆนี้ กระบวนการผลิตจะไม่ ละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญา ทั้งเนื้อหาและดนตรีประกอบ จึงได้ผสมผสานเทคนิคต่าง ๆ ในการสร้างเสียง จากโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการสร้างเสียงเอฟเฟค ดนตรีประกอบ เสียงแบคกราวน์ เช่น การใช้ Instruments (Analog Drum Rack Operator Sampler etc.) การใช้งาน External Plug-Ins ต่าง ๆ ในการสร้างดนตรีประกอบ การปรับค่าต่าง ๆ จากโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อให้สามารถสื่ออารมณ์จากดนตรีได้ดี
- การนำเสนอ อยู่ในรูปแบบของไฟล์โปรเจค ที่สามารถนำไปใช้ในงานอื่น ๆ ต่อไปได้อีก ทั้งนี้ นิทานเสียงที่ได้จะอยู่ในรูปแบบไฟล์ดิจิทัล โดยอัฟโหลดขึ้นไปบนเซิฟเวอร์เพื่อสตรีมมิงผ่านเว็บเซอร์วิสต่าง ๆ โดยกลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงได้โดยผ่านเว็บสตรีมมิง
- ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
- ประชากร คือ นักเรียนผู้พิการทางสายตาในระดับประถมศึกษาปีที่ 1-6
- กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนผู้พิการทางสายตาในระดับประถมศึกษาปีที่ 1-6 จำนวน 30 คน เลือกโดยวิธีเฉพาะเจาะจง
- ตัวแปรที่ใช้ในงานวิจัย
- ตัวแปรต้น คือ นิทานเสียงเพื่อความบันเทิงโดยสอดแทรกเนื้อหาด้านคุณธรรม
- ตัวแปรตาม คือ ประสิทธิภาพของสื่อเสียง ความพึงพอใจของการฟังสื่อเสียง
- นิยามศัพท์เฉพาะ
- คนพิการทางสายตา หมายถึง คนที่มีความบกพร่องทางสายตาทั้งสองข้าง โดยครอบคลุมถึงระดับสายตาเลือนลางจนถึงตาบอดสนิท ทั้งนี้ไม่รวมถึงผู้พิการทางสติปัญญา
- นิทานเสียง หมายถึง นิทานที่แต่งขึ้นใหม่ตามองค์ประกอบของการแต่งนิทานโดยมีเสียงพากษ์ประกอบกับเสียงเอฟเฟค เสียงดนตรี เสียงประกอบต่าง ๆ ที่ทำขึ้นใหม่
- ความพึงพอใจ หมายถึง ระดับความรู้สึกหรือความประทับใจของคนพิการทางสายตาที่มีต่อสื่อเสียงสำหรับคนพิการทางสายตา
ขั้นตอนการวิจัย
- การพัฒนานิทานเสียงสำหรับคนพิการทางสายตา
- ศึกษาเกี่ยวกับการผลิตนิทานเสียงเพื่อคนพิการทางสายตา หลักการและทฤษฎีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ทฤษฎีการเรียนรู้ของคนพิการทางสายตา เสียงกับการสื่อความหมาย ดนตรีและ เสียงประกอบ เป็นต้น
- ศึกษาเกี่ยวกับโปรแกรมที่ใช้ในการพัฒนาเสียง เช่น โปรแกรมสร้างเสียงสังเคราะห์ โปรแกรมตัดต่อเสียง การบันทึกเสียงต่าง ๆ เช่น เสียงพากษ์ เสียงประกอบ เสียงเอฟเฟค เสียงดนตรี ตลอดจนเสียงธรรมชาติ
- ขั้นตอนการเขียนและพัฒนาบทสำหรับการผลิตสื่อเสียงสำหรับคนพิการทางการมองเห็น โดยให้มีเนื้อหาสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม และความบันเทิง
- ขั้นดำเนินการพัฒนาสื่อเสียง การพากษ์ การออกแบบเสียงด้วยโปรแกรม การสร้างดนตรีและเสียงประกอบ เสียงเอฟเฟค ตลอดจนการบันทึกเสียง ตัดต่อเสียง จากนั้น Export ออกมาในรูปแบบไฟล์ และน าขึ้นเซิฟเวอร์ เพื่อเผยแพร่ผ่านระบบสตรีมมิง
- นำเสียงที่ได้ไปทดสอบกับผู้พิการทางสายตา บันทึกข้อมูล
- วิเคราะห์และประเมินผล
- สรุปผลการศึกษา
- การสร้างแบบประเมินความพึงพอใจ
- ศึกษาวิธีการสร้างแบบประเมินความพึงพอใจสำหรับผู้พิการทางสายตา โดยศึกษาจากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง จากนั้นจึงออกแบบประเมินส าหรับการพัฒนาสื่อเสียง
- สร้างแบบประเมินความพึงพอใจของผู้พิการทางสายตาที่มีต่อสื่อเสียง โดยมี 5 ระดับ คือ ความพึงพอใจระดับ มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย และน้อยที่สุด
- เมื่อสร้างแบบประเมินเสร็จแล้ว เมื่อนำไปใช้จริง วิธีการคือ อธิบายวิธีการกรอก แบบประเมินความพึงพอใจ โดยให้ผู้กรอกนั้นตอบคำถามด้วยปากเปล่า
- อ่านแบบประเมินความพึงพอใจให้กับกลุ่มตัวอย่างฟังและตอบคำถาม
- นำแบบประเมินความพึงพอใจมาวิเคราะห์ข้อมูล และสรุปผล
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
- ประโยชน์ด้านวิชาการ
- ได้ศึกษาเทคนิคการผลิตสื่อเสียงด้วยวิธีต่างๆทั้งเสียงสังเคราะห์ และการบันทึกเสียง การบันทึก Foley เป็นต้น
- ได้ทราบความพึงพอใจของกลุ่มประชากร เพื่อนำข้อมูลมาพัฒนา ปรับปรุงสำหรับ การทำงานวิจัยต่อไป
- ได้ศึกษาเทคนิค วิธีการสร้างสรรค์สื่อเสียงสำหรับผู้พิการทางสายตา
- ได้สื่อเสียงเพื่อส่งเสริมคุณธรรมสำหรับผู้พิการทางสายตา และบุคคลทั่วไป
- ประโยชน์ด้านนโยบาย
- ได้ส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม แก่กลุ่มประชากร
- ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต
- ประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ/พาณิชย์
- สื่อเสียงสำหรับผู้พิการทางสายตาชุดนี้ เป็นงานลิขสิทธิ์ทั้งเนื้อหา เสียงเอฟเฟค และเสียงดนตรีประกอบ ทั้งนี้สามารถนำไปใช้เพื่อการพาณิชย์ และสามารถจดทะเบียนลิขสิทธิ์ผลงานได้
- ได้ทราบความต้องการสื่อเสียงจากผู้พิการทางสายตา โดยผู้วิจัยสามารถนำข้อมูลนี้ ไปต่อยอดสำหรับการทำงานวิจัยต่อไปในอนาคตได้
- หน่วยงานที่นำไปใช้ประโยชน์ ได้แก่ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ โรงเรียนสำหรับ ผู้พิการทางสายตาต่าง ๆ สถานีวิทยุต่าง ๆ หน่วยงานเอกชน องค์กรอิสระ รวมถึงประชาชนทั่วไป