The Study of Demand for Computer Used in Personal Vehicles in Bangkok
โดย รังสรรค์ ยังศิริ
ปี 2550
บทคัดย่อ (Abstract)
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความต้องการซื้อคอมพิวเตอร์ติดรถยนต์ของผู้ใช้รถยนต์ส่วนบุคคลในเขตกรุงเทพมหานคร ประชากรที่ใช้ทำการวิจัยในครั้งนี้ คือผู้ใช้รถยนต์ส่วนบุคคลในเขตกรุงเทพมหานคร โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือ ในการวิจัยครั้งนี้ได้กำหนดให้มีการเก็บข้อมูลในส่วนที่ต้องการซื้อให้ได้ครบจำนวน 400 ชุด และส่วนที่เกินจะเป็นส่วนที่ไม่ต้องการซื้อ ซึ่งมีจำนวน 200 ชุด รวมเป็นแบบสอบถามทั้งสิ้น 600 ชุด สถิติเชิงพรรณาที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตราฐาน ส่วนสถิติการทดสอบสมมติฐานใช้ไค-สแควร์ (Chi-square) เพื่อหาความสัมพันธ์ สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติใช้โปรแกรมสำเร็จรูป SPSS for Windows
ผลการวิจัยของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด พบว่า เป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง มีอายุ25-29 ปี มีระดับการศึกษาปริญญาตรี สถานภาพสมรส มีอาชีพเป็นพนักงาน/ลูกจ้างบริษัทเอกชนมีรายได้ต่อเดือนต่ำกว่าหรือเท่ากับ 20,000 บาท ยี่ห้อรถยนต์ที่ใช้คือโตโยต้า ประเภทรถยนต์ที่ใช้เป็นประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (เก๋ง) และมีความต้องการซื้อคอมพิวเตอร์ติดรถยนต์มากกว่าไม่ต้องการซื้อ
ผลการวิจัยของผู้ตอบแบบสอบถามที่ตอบว่าไม่ต้องการซื้อ พบว่า เป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง มีอายุ 40 ปีขึ้นไป มีระดับการศึกษาปริญญาตรี มีสถานภาพสมรส มีอาชีพเป็นพนักงาน/ลูกจ้างบริษัทเอกชน มีรายได้ต่อเดือนต่ำกว่าหรือเท่ากับ 20,000 บาท ยี่ห้อรถยนต์ที่ใช้คือโตโยต้าประเภทรถยนต์ที่ใช้เป็นประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (เก๋ง) และเหตุผลที่ไม่ซื้อคอมพิวเตอร์ติดรถยนต์คือไม่มีความจำเป็นและมีราคาสูง
ผลการวิจัยของผู้ตอบแบบสอบถามที่ตอบว่าต้องการซื้อ พบว่า เป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง มีอายุ 25-29 ปี มีระดับการศึกษาปริญญาตรี สถานภาพเป็นโสด มีอาชีพเป็นพนักงาน/ลูกจ้างบริษัทเอกชน มีรายได้ต่อเดือนต่ำกว่าหรือเท่ากับ 20,000 บาท ยี่ห้อรถยนต์ที่ใช้คือโตโยต้าประเภทรถยนต์ที่ใช้เป็นประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (เก๋ง) โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการซื้อคือเพื่อใช้งานทางด้านความบันเทิงและเพื่อเป็นระบบนำทางในรถยนต์ อุปกรณ์เสริมที่ต้องการคือดีวีดีและกล้องมองหลัง ชนิดของคอมพิวเตอร์ติดรถยนต์เป็นแบบติดกับคอนโซลหน้ารถยนต์ (1-DIN) จอแสดงผลขนาด 8.4 นิ้ว ระดับราคาที่ต้องการซื้อคือน้อยกว่าหรือเท่ากับ 30,000บาท ต้องการซื้อด้วยวิธีการชำระเงินแบบระบบสินเชื่อ/ผ่อนชำระ และซื้อกับตัวแทนจำหน่าย ส่วนด้านความสำคัญของปัจจัยส่วนประสมการตลาด พบว่า ให้ระดับของความสำคัญโดยรวมอยู่ในระดับมาก ส่วนใหญ่ให้ระดับความสำคัญกับด้านราคามากที่สุด รองลงมาคือด้านการส่งเสริมการตลาดด้านช่องทางการจัดจำหน่าย และด้านผลิตภัณฑ์ตามลำดับ
ส่วนการทดสอบสมมติฐานในด้านความต้องการซื้อ พบว่า เพศ อายุ และรายได้ต่อเดือนของผู้ใช้รถยนต์ส่วนบุคคลมีความสัมพันธ์กับความต้องการซื้อคอมพิวเตอร์ติดรถยนต์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ 0.05 ส่วนยี่ห้อรถยนต์ที่ใช้และประเภทรถยนต์ที่ใช้ของผู้ใช้รถยนต์ส่วนบุคคลไม่มีความสัมพันธ์กับความต้องการซื้อคอมพิวเตอร์ติดรถยนต์ และการทดสอบสมมติฐานในด้านระดับราคาที่ต้องการซื้อ พบว่า เพศ อายุ ยี่ห้อรถยนต์ที่ใช้ และประเภทรถยนต์ที่ใช้ของผู้ใช้รถยนต์ส่วนบุคคลไม่มีความสัมพันธ์กับระดับราคาที่ต้องการซื้อคอมพิวเตอร์ติดรถยนต์ ส่วนรายได้ต่อเดือนของผู้ใช้รถยนต์ส่วนบุคคลมีความสัมพันธ์กับระดับราคาที่ต้องการซื้อคอมพิวเตอร์ติดรถยนต์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
ความต้องการซื้อคอมพิวเตอร์ติดรถยนต์ของผู้ใช้รถยนต์ส่วนบุคคลในเขตกรุงเทพมหานคร