Behaviors and Usefulness of Private Network Systems : A Case Study of Krungsri Ayudhya AMC Ltd.
โดย อานุภาพ พลเยี่ยม
ปี 2555
บทคัดย่อ (Abstract)
การค้นคว้าอิสระเรื่อง พฤติกรรมและประโยชน์การใช้ระบบงานเครือข่ายส่วนตัวกรณีศึกษาบริษัท บริหารสินทรัพย์กรุงศรีอยุธยาจำกัดมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับการรับรู้ประโยชน์ 2) ศึกษาพฤติกรรมการใช้งานระบบเครือข่ายส่วนตัว และ 3) ศึกษาปัจจัยด้านประชากรศาสตร์ที่มีผลต่อพฤติกรรมและการรับรู้ประโยชน์การใช้งานระบบเครือข่ายส่วนตัว
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ พนักงานบริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา จำกัด เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือแบบสอบถาม จำนวน 50 ชุด สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ สถิติเชิงพรรณนาได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้สถิติไคสแควร์ เพื่อทดสอบสมมติฐานทางการศึกษา ประมวลผลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ
ผลการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศชาย อายุ 40 ปีขึ้นไป ระดับการศึกษาปริญญาตรี โสด ทำงานด้านไอที มีอายุงานไม่เกิน 6 ปี ไม่เคยฝึกอบรม รับรู้การใช้งานวีพีเอ็นจากนโยบาย และมีความเชื่อว่าระบบวีพีเอ็นจะช่วยให้ทำงานได้ดีขึ้น การทดสอบสมมติฐานพบปัจจัยด้านประชากรศาสตร์ได้แก่ อายุ ตำแหน่งงาน ประสบการณ์การทำงานและฝ่ายงานมีผลต่อพฤติกรรมการใช้งานระบบเครือข่ายวีพีเอ็นอย่างมีนัยสำคัญ ปัจจัยด้านประชากรศาสตร์ได้แก่ เพศ ประสบการณ์การทำงาน และฝ่ายงานมีผลต่อการรับรู้ประโยชน์การใช้งานระบบเครือข่ายวีพีเอ็นอย่างมีนัยสำคัญ
This independent study aimed to explore the opinion on perceived usefulness and behaviors on the usage of private network systems, and to study demographic factors that affected behaviors and perceived usefulness on private network system usage.
The research sample group was employees of Krungsri Ayudhya AMC Ltd. The research tool was 50 questionnaires. Data were analyzed using descriptive statistics including Frequency, Percentage, Mean, and Standard Deviation; and Chi-Square was used to test research hypotheses.
The study results found that most of the respondents were males, more than 40 years old, Bachelor’s degree, worked in the IT section, had work experience less than 6 years, never had training, perceived usefulness of private network system from policy, and believed that private network system made work better. The hypothesis results found that age, work position, work experience, and work section had statistically significant effects on behaviors of private network system usage. Gender, work experience, and work section had statistically significant effects on perceived usefulness of private network system usage.