The study of composite technique to show space and time in short film movie
จัดทำโดย วสุวัชร์ วสุวัชรพงศ์ และ หลักทรัพย์ ปัญญาชื่น
สาขา เทคโนโลยีการถ่ายภาพและภาพยนตร์
ปีการศึกษา 2558
บทคัดย่อ (Abstract)
การศึกษาเทคนิคการซ้อนภาพ (Composite) ผู้ศึกษาผลิตภาพยนตร์สั้น ความยาว 2 นาทีด้วยกล้อง Canon 6D หลังจากได้ทำการถ่ายทำเสร็จแล้ว ก็ได้นำฟุตเทจมาตัดต่อด้วยโปรแกรม Adobe After Effects CS6 และได้ศึกษาเทคนิคการซ้อนภาพ (Composite) จากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อนำเทคนิคมาใช้ในภาพยนตร์สั้น ให้สอดคล้องตามความต้องการของผู้ผลิตสามารถใช้เทคนิคการซ้อนภาพ (Composite) เพื่อแสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงสถานที่นั้น ๆ
โดยจัดฉายให้นักศึกษาสาขาเทคโนโลยีการถ่ายภาพและภาพยนตร์ จำนวน 15 คน และกลุ่มนักศึกษาคณะเทคโนโลยีสื่อสื่อมวลชน จำนวน 15 คน ชมภาพยนตร์แล้วทำการประเมินผลโดยใช้แบบสอบถามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการใช้เทคนิคการซ้อนภาพ (Composite) ร่วมกับการนำเสนอของภาพยนตร์สั้นแล้วเปรียบเทียบค่าสถิติเป็นร้อยละ
ผลการศึกษาพบว่า การผลิตภาพยนตร์หนังสั้นมีผลประเมินประสิทธิภาพการใช้เทคนิคการซ้อนภาพ (Composite) ร่วมกับการนำเสนอเนื้อหาของภาพยนตร์สั้นได้อย่างสอดคล้องและเหมาะสมตรงตามวัตถุประสงค์การผลิตของผู้จัดทำ
วัตถุประสงค์ของการศึกษา
เพื่อศึกษาการใช้เทคนิค Compositeหรือการซ้อนภาพลงในฉากภาพเคลื่อนไหวด้วยโปรแกรม Adobe Photoshop CS6 และใส่เทคนิคพิเศษด้วยโปรแกรม Adobe After Effects CS6 และทำการตัดต่อ File video ด้วยโปรแกรม Final Cut Pro แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงสถานที่
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
- สามารถใช้เทคนิคการซ้อนภาพเพื่อให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงสถานที่
- มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเทคนิคการซ้อนภาพ (Composite)ได้อย่างถูกต้อง
ขอบเขตการศึกษา
การศึกษาเรื่องการใช้เทคนิคพิเศษการซ้อนภาพครั้งนี้ ผู้ศึกษาได้ถ่ายทำภาพยนตร์สั้นเรื่อง “มือถือวิเศษ” ความยาว 2 นาที ให้เสมือนมีการเปลี่ยนแปลงสถานที่ โดยการบันทึกด้วยกล้อง Canon 6D แล้วนำภาพนิ่งที่ได้มาแต่งโดยใช้โปรแกรม Adobe Photoshop CS6 แล้วจึงนำไปซ้อนลง File video ที่ทำการบันทึกไว้ ทำการเพิ่มเติมเทคนิคพิเศษและซ้อนภาพโดยใช้โปรแกรม Adobe After Effects CS6 ทำการตัดต่อด้วยโปรแกรม Final Cut Pro บันทึกในรูปแบบ DVD-ROM จากนั้นทำการจัดฉายให้กลุ่มนักศึกษาสาขาเทคโนโลยีการถ่ายภาพและภาพยนตร์ จำนวน 15 คนและนักศึกษาคณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชนที่เป็นสาขาอื่น จำนวน 15 คน แล้วทำการประเมินแบบสอบถามหลังการชมภาพยนตร์โดยคิดเป็นร้อยละและค่าเฉลี่ย และสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำเทคนิคพิเศษในภาพยนตร์เกี่ยวกับคุณภาพของสื่อที่ผลิต
สรุปผลการศึกษา
จากการศึกษาเรื่องการใช้เทคนิคการซ้อนภาพ (Composite) เพื่อแสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงสถานที่ ผู้ศึกษาสรุปผลการประเมินได้ว่า การเลือกใช้เทคนิคพิเศษในภาพยนตร์สั้นนั้นมีความสำคัญมากสามารถสร้างสรรค์ให้ดูน่าติดตามและน่าสนใจมากขึ้น ในการทำภาพยนตร์สั้นนั้นนอกจากเทคนิคพิเศษแล้วการเขียนบทก็สำคัญเช่นกัน บทภาพยนตร์ต้องมีเนื้อเรื่องที่น่าติดตามและน่าสนใจ เมื่อผู้ชมรับชมแล้วทำให้ไม่น่าเบื่อ เทคนิคพิเศษก็สามารถทำให้ผู้รับชมมีความคล้อยตามและรู้สึกเหมือนมีการเปลี่ยนแปลงสถานที่จริง ๆ ดังนั้นเทคนิคพิเศษจึงมีบทบาทสำคัญในการผลิตภาพยนตร์สั้นเป็นอย่างมาก
อภิปรายผลการศึกษา
จากผลการศึกษาพบว่า การใช้เทคนิคการซ้อนภาพ (Composite) เพื่อแสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของสถานที่ ความคิดสร้างสรรค์ในการนำเสนอเนื้อหาต้องมีความน่าสนใจต่อผู้รับชม รวมถึงการใช้ดนตรีประกอบ การใช้เทคนิคพิเศษ ทั้งหมดนี้ล้วนสอดคล้องกันในการนำเสนอกับคำกล่าวว่า
- การใช้สีของ Effects ในภาพยนตร์สั้นมีมากน้อยเพียงใด
- ระยะเวลาของ Effects ในภาพยนตร์สั้นมีมากน้อยเพียงใด
- ชนิดของ Effects ในภาพยนตร์สั้นมีมากน้อยเพียงใด
- ตำแหน่งของ Effect ในภาพยนตร์สั้น มีมากน้อยเพียงใด
- การใช้เทคนิค Composite (การซ้อนภาพ) มีความกลมกลืนมากน้อยเพียงใด
- การใช้เทคนิค Composite (ซ้อนภาพ) มีความน่าสนใจมากน้อยเพียงใด
- ความคิดสร้างสรรค์ของการนำเสนอ
สมาน งามสนิท (2539:826) กล่าวว่า เทคนิคพิเศษมีความสำคัญต่อภาพยนตร์หลายประการ ทั้งนี้เนื่องจากว่า เทคนิคพิเศษเข้ามาเกี่ยวข้องในงานสร้างสรรค์ภาพยนตร์ตั้งแต่ต้นจนจบ เกี่ยวข้องกับทุกฉาก ทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่งานเขียนบท ผู้เขียนเริ่มมองว่า ในแต่ละฉากแต่ละตอนควรมีผลวิเศษอะไรบ้าง ถึงตอนวางแผนการผลิตจะมีการวางแผนว่า ฉากในแต่ละฉากจะมีเทคนิคพิเศษอะไรบ้างจึงจะทำให้ภาพดูสมจริง และประหยัดเวลาในขั้นตอนการตัดต่อ เทคนิคพิเศษจึงมีความสำคัญต่อการสร้างภาพยนตร์ โดยสรุปดังนี้
- สร้างเหตุการณ์ให้ดูสมจริง
- สร้างสถานการณ์ให้เร้าใจ
- ลดอันตรายแก่ผู้แสดง
- สร้างสิ่งที่อยู่เหนือจริงให้ยอมรับได้
จันจิรา ขจรไพศาล (2539:5) กล่าวว่า การสร้างเทคนิคพิเศษมีความสำคัญต่อภาพยนตร์หลายประการ เช่น การสร้างเหตุการณ์ให้ดูสมจริง สามารถสร้างฉากธรรมดาให้กลายเป็นฉากที่ตื่นเต้นได้ สร้างสิ่งเหมือนจริงให้ยอมรับได้ ลดอันตรายให้แก่ผู้แสดง และสามารถประหยัดงบประมาณในการสร้างภาพยนตร์อีกด้วย
ข้อเสนอแนะ
กวี พรมหู (สัมภาษณ์ , 29 มิถุนายน 2559) ในการวางแผนก่อนการถ่ายทำต้องมีการวางแผนให้รอบคอบและวางเป้าหมายไว้ การกำหนดวันเวลาในการปฏิบัติงานก็ควรปฏิบัติให้ตรงตามที่กำหนดไว้ หากมีการคลาดเคลื่อนอาจทำให้การวางแผนในการทำงานล่าช้าและชิ้นงานอาจไม่สมบูรณ์แบบ
- เสียง Effects
เสียงที่ใช้ประกอบหนังสั้น เลือกใช้เสียงดึงอารมณ์ให้หนังดูน่าพิศวงดี ส่วนเรื่อง Sound Effects ที่ประกอบกับช่วงซีน Visual Effects นั้น ยังจับจังหวะเสียงกับภาพไม่ตรงกันในบางจังหวะ แต่โดยรวมมีความเข้าใจในการใส่เสียงกับภาพซีน Climax เสียงยังนิ่งไป ไม่ชวนให้ตื่นเต้น หรือดูให้รู้ว่านี้ คือ ซีนสำคัญ Sound Effects ที่ใช้ช่วงข้ามมิติไปที่ต่าง ๆ นั้น ควรจะเปลี่ยนเสียงบรรยากาศให้สอดคล้องกับสถานที่นั้น ๆ ด้วยก็จะดี ทำให้งาน มีความสมเหตุสมผลมากขึ้นสรุป เสียงโดยรวมการเลือกเสียงไปกับอารมณ์ของหนังได้ดีระดับหนึ่ง แต่ยังขาดการวางเสียงตามจังหวะสำคัญ ๆ ของหนังอยู่ - ระยะเวลาในการใช้ Effects
ในช่วงที่หนังกำลังจะเข้าซีนข้ามมิติควรมีซีนมารองรับ หรือเพิ่มซีนส่งเพื่อจะเข้าสู่การข้ามมิติ เพื่อให้จังหวะไม่ขาดตอน แล้วก่อนที่จะเข้าซีนข้ามมิติ ควรมีซีนที่ค่อย ๆ ปรากฏ Effects ส่งตัวละครก่อน แล้วเข้าไปที่ซีนข้ามมิติ ระยะเวลาการใช้ Effects สั้นไปและตัดเร็วไปหน่อย ควรมีการไล่ระดับขึ้นลงเพื่อความ Smooth และความเป็นธรรมชาติ จังหวะ Transition จับจังหวะได้ดีกับเสียง Effects - การ Keying การ Composite
การ Keying Green Screen ตัวละครเคลียร์ดี แต่ปัญหาที่พบ คือ ไม่ได้มีการวางเฟรม หรือดีไซน์ไว้ ทำให้ดูหลอกตาเหมือนภาพตัดแปะ การ Composite ไม่ได้มีการปรับสีตัวละครไปกับสถานที่ต่าง ๆ เช่น ไปที่ซีน ป่า ก็ต้องมีการปรับสี ใส่แสง เลียนแบบบรรยากาศนั้น ๆ ปรับสีให้กลมกลืนให้ดูเสมือนจริงมากที่สุด เป็นต้น - การใช้เทคนิค Composite
การเลือกใช้เทคนิค Composite นั้น จะต้องคำนึงถึงเนื้อเรื่อง การวางสตอรี่ที่ชัดเจน
เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพ การ Design ภาพ การจัดองค์ประกอบ การวางซีนต่อซีน จะต้องมีการรับส่งของภาพที่ดี เพราะเราจะต้องหลอกคนดูให้ได้ว่า มันเสมือนมีอยู่จริง - ความคิดสร้างสรรค์
โดยรวมมีความตั้งและการเล่าเรื่องได้ดี แต่ยังขาดการวางแผน การ Design การปะติดปะต่อเรื่องราวให้มีความน่าสนใจกว่านี้ แต่มองความตั้งใจดี มีความพยายามที่ดี สามารถพัฒนาได้ควรศึกษาเทคนิคและดูงานเยอะ ๆธราทิพย์ พวงมณี ( สัมภาษณ์ , 29 มิถุนายน 2559 ) เสียงเอฟเฟคตัดเข้าเร็วเกินไป บางครั้งใช้เสียงเอฟเฟคมากเกินไปทำให้ไม่ได้ยินเสียงพูดเรียงลำดับภาพได้ดี การใช้เทคนิคต่าง ๆ ถือว่า พอใช้ได้ในระดับหนึ่งเริ่มเรื่องมาดี แต่ไม่ได้มีเฉลยว่า ทำไมใช้มือถือแล้วถึงทำให้แก่ลง เพราะว่า เรื่องรวบรัดเร็วเกินไป