study of thai traditional dance learing achievement of secondary 1 (grade 7) dipangkorn wirrayapat (mattayomwathatasankaset) school students study using davie’s practice skills instructional model

โดย ปรียา ทรัพย์ยุทธ

ปี 2565


บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านความรู้ รายวิชาศิลปะ(นาฏศิลป์) เรื่องรำวงมาตรฐาน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์(มัธยมวัดหัตถสารเกษตร) ในพระราชูปถัมภ์ฯ ที่เรียนโดยใช้รูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติ ของเดวีส์ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านความรู้ รายวิชาศิลปะ(นาฏศิลป์) เรื่องรำวงมาตรฐาน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์(มัธยมวัดหัตถสารเกษตร) ในพระราชูปถัมภ์ฯ ระหว่างกลุ่มทดลองที่เรียนโดยใช้รูปแบบ การสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์กับกลุ่มควบคุมที่ใช้วิธีการสอนแบบปกติ 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางด้านทักษะปฏิบัติรายวิชาศิลปะ(นาฏศิลป์) เรื่องรำวงมาตรฐาน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์(มัธยมวัดหัตถสารเกษตร) ในพระราชูปถัมภ์ฯ ระหว่างกลุ่มทดลองที่เรียนโดยใช้รูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์กับกลุ่มควบคุมที่ใช้วิธีการสอนแบบปกติ

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/4 ที่เป็นกลุ่มควบคุม จำนวน 40 คน และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/8 ที่เป็นกลุ่มทดลองจำนวน 40 คน รวมทั้งหมด 80 คน ใช้วิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Group Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์ในการศึกษาผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนรู้ เรื่องรำวงมาตรฐาน เพลงรำซิมารำและเพลงดวงจันทร์ขวัญฟ้าของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์(มัธยมวัดหัตถสารเกษตร) ในพระราชูปถัมภ์ฯ จำนวน 6 แผน 2) แบบทดสอบ แบ่งออกเป็น 2 ฉบับ คือ ฉบับที่ 1 เรื่องความรู้เกี่ยวกับรำวงมาตรฐานเพลง รำซิมารำ สำหรับใช้เป็นแบบทดสอบก่อนเรียน และหลังเรียน และฉบับที่ 2 เรื่องความรู้เกี่ยวกับรำวงมาตรฐานเพลงดวงจันทร์ขวัญฟ้า สำหรับใช้เป็นแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน ฉบับละ 10 ข้อ 3) แบบประเมินทักษะการปฏิบัติ ประกอบด้วยแบบประเมินทักษะการร้องและแบบประเมินทักษะการปฏิบัติท่ารำเพลงรำซิมารำและเพลงดวงจันทร์ขวัญฟ้า

ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านความรู้ของกลุ่มทดลองที่เรียนโดยใช้รูปแบบ การสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์หลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านความรู้ของกลุ่มทดลองที่เรียนโดยใช้รูปแบบการสอน ทักษะปฏิบัติของเดวีส์สูงกว่ากลุ่มควบคุมที่เรียนโดยวิธีการสอนแบบปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านทักษะปฏิบัติของกลุ่มทดลองที่เรียนโดยใช้รูปแบบการสอน ทักษะปฏิบัติของเดวีส์สูงกว่ากลุ่มควบคุมที่ใช้วิธีการสอนแบบปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05


Abstract

The objectives of this study were to: 1) compare the learning achievement in Thai Traditional Dance of Secondary 1 (Grade 7) Dipangkornwittayapat (Mattayomwathatasankaset) school students using Davie’s practice skills instructional model before and after the experiment, 2) compare the learning achievement in the knowledge of art (dancing art) on Thai Traditional Dance of Secondary 1 (Grade 7) Dipangkornwittayapat (Mattayomwathatasankaset) school students between the experimental group using Davie’s practice skills instructional model and the control group using a normal method, and 3) compare the learning achievement in practical skills of art (dancing art) on Thai Traditional Dance of Secondary 1 (Grade 7) Dipangkornwittayapat (Mattayomwathatasankaset) school students between the experimental group using Davie’s practice skills instructional model and the control group using a normal method.

The samples of this research were 80 students, which consisted of 40 students at the secondary school in class 1/4 in the control group and 40 students in the experimental group in the secondary school in class 1/8. They were selected by group sampling. The research instruments included: 1) 6 lesson plans using Davie’s practice skills instructional model to examine the learning achievement on Thai Traditional Dance in Ram Si Ma Ram and Duang Jan Kwan Fa songs of Secondary 1 (Grade 7) Dipangkornwittayapat (Mattayomwathatasankaset) school students, 2) an achievement test, which was divided into 2 parts, the first part on the knowledge of Thai Traditional Dance of Ram Si Ma Ram song as a pre-test and post-test with 10 items and the second part on the knowledge of Thai Traditional Dance for Duang Jan Kwan Fa Song as a pre-test and post-test with 10 items, and 3) a practical skills assessment from consisted of the singing skills assessment from and the dancing skills assessment from in Ram Si Ma Ram and Duang Jan Kwan Fa songs.

The research results revealed that:1)the learning achievement of the experimental group using Davie’ s practice skills instructional model after the experiment was higher than before the experiment at the statistical significance level of . 05. 2) the learning achievement in the knowledge of the experimental group using Davie’ s practice skills instructional model was significantly higher than the control group using a normal method at the . 05 level, and 3) the learning achievement in practical skills of the experimental group using Davie’ s practice skills instructional model was significantly higher than the control group using a normal method at the .05 level.


Download : study of thai traditional dance learing achievement of secondary 1 (grade 7) dipangkorn wirrayapat (mattayomwathatasankaset) school students study using davie’s practice skills instructional model