ปัญหาเกี่ยวกับการทุเลาการเสียภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร

โดย อาทิตยา เจริญเชื้อ

ปีที่  5 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2554

บทคัดย่อ
งานศึกษาฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการทุเลา การเสียภาษีอากรโดยทำการศึกษาเปรียบเทียบกับการทุเลาการบังคับคดีตามหลักกฎหมายอื่นๆ การทุเลาการบังคับตามกฎหรือคำสั่งทางปกครอง และการทุเลาการเสียภาษีอากรตามกฎหมายต่างประเทศ เพื่อทำให้ทราบว่าการพิจารณาคำร้องขอการทุเลาการเสียภาษีอากรตามประมวลรัษฎากรมีความเหมาะสมที่จะคุ้มครองสิทธิและให้ความเป็นธรรมแก่ผู้เสียภาษีอากรหรือไม่ เพียงใด และเพื่อหามาตรการทางกฎหมายที่เหมาะสม ในการนำมาใช้แก้ไขและปรับปรุงกฎหมายของประเทศไทยที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน เพื่อก่อให้เกิดความยุติธรรม ถูกต้องชัดเจนตามหลักการกระทำทางปกครองต้องชอบด้วยกฎหมาย

จากการศึกษาพบว่า การทุเลาการเสียภาษีอากรและการพิจารณาคำร้องขอทุเลาการเสียภาษีอากรตามประมวลรัษฎากรยังมีปัญหาหลายประการ ได้แก่ การยื่นคำร้องขอทุเลาการเสียภาษีอากร การใช้อำนาจของอธิบดีกรมสรรพากรในการพิจารณาคำร้องขอทุเลาการเสียภาษีอากร หลักเกณฑ์การขอทุเลาการเสียภาษีอากร และระยะเวลาการพิจารณาคำร้องขอทุเลาการเสียภาษีอากร ยังไม่มีความเหมาะสมที่จะคุ้มครองสิทธิและให้ความเป็นธรรมแก่ผู้เสียภาษีอากรเท่าที่ควร

ดังนั้น ผู้ศึกษาจึงมีข้อเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการทุเลาการเสียภาษีอากร ดังนี้ ควรระบุในประมวลรัษฎากรให้ชัดเจนว่า การขอทุเลาการเสียภาษีอากร ซึ่งเป็นภาษีอากรค้างตามมาตรา 12 มิใช่การขอทุเลาการบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 231 ต้องยื่นคำร้องขอทุเลาการเสียภาษีอากรต่ออธิบดีกรมสรรพากรเท่านั้น หรือควรประชาสัมพันธ์ให้ผู้อุทธรณ์เข้าใจถึงผู้มีอำนาจในการพิจารณาคำร้องขอทุเลาการเสียภาษีอากร เพื่อให้ผู้อุทธรณ์ สามารถดำเนินการได้อย่างถูกต้อง และควรบัญญัติหลักแห่งความเสมอภาค หลักความพอสมควรแก่เหตุหรือหลักแห่งความได้สัดส่วน หลักแห่งความเป็นกลาง หลักการรับฟังความอีกฝ่ายหนึ่ง และหลักการให้เหตุผลประกอบคำสั่งทางปกครองเพิ่มเติมในประมวลรัษฎากรเกี่ยวกับอำนาจของอธิบดีกรมสรรพากรในการใช้ดุลพินิจพิจารณาคำร้องขอ
ทุเลาการเสียภาษีอากร อีกทั้งกำหนด ด้วยว่า หากอธิบดีกรมสรรพากรเห็นเป็นการสมควรในเหตุเกี่ยวกับการอุทธรณ์ภาษีอากร จะมีคำสั่งให้ทุเลาการเสียภาษีอากรโดยผู้อุทธรณ์ไม่ต้องมีคำร้องขอทุเลาการเสียภาษีอากรก่อน หรืออธิบดีกรมสรรพากรอาจมีคำสั่งให้ ผู้อุทธรณ์ยื่นคำร้องขอทุเลาการเสียภาษีอากรเพิ่มเติมในภายหลังก็ได้ อีกทั้ง ควรเพิ่มหลักประกันในการขอทุเลาการเสียภาษีอากร โดยการนำสมุดเงินฝากประจำธนาคารพาณิชย์ของบุคคลอื่นเข้ามาเป็นหลักประกันในการชำระภาษีอากร เพื่อเปิดโอกาสให้บุคคลอื่นที่มีสมุดเงินฝากประจำธนาคารพาณิชย์สามารถช่วยเหลือผู้อุทธรณ์ โดยการนำสมุดเงินฝากประจำธนาคารพาณิชย์ของตนมาเป็นหลัก
ประกันในการขอทุเลาการเสียภาษีอากรของผู้อุทธรณ์ได้ และควรกำหนดให้ผู้อุทธรณ์สามารถนำบุคคลผู้มีหลักทรัพย์หรือฐานะการเงินดี หรือเป็นบุคคลผู้มีชื่อเสียงเชื่อถือได้มาค้ำประกันการเสียภาษีอากรของผู้อุทธรณ์เช่นเดียวกับกรณีที่ผู้เสียภาษีอากร ค้ำประกันการผ่อนชำระภาษีอากรค้างโดยนำบุคคลผู้มีหลักทรัพย์หรือฐานะการเงินดี หรือเป็นบุคคลผู้มีชื่อเสียงเชื่อถือได้มาค้ำประกันตามระเบียบกรมสรรพากร ว่าด้วยการผ่อนชำระภาษีอากร พ.ศ. 2545 และควรเพิ่มหลักเกณฑ์การขอทุเลาการเสียภาษีอากร กรณีการยื่นคำขอพิจารณาหนี้ภาษีอากรตามใบแจ้งการค้างชำระภาษีอากร (บช.35)ใหม่ ให้สามารถขอทุเลาการเสียภาษีอากรในระหว่างยื่นคำร้องขอยกเลิกหรือแก้ไขหนี้ภาษีอากรตามใบแจ้งการค้างชำระภาษีอากร (บช.35) ได้ด้วย และควรแก้ไขกฎหมายโดยอนุโลมให้ผู้อุทธรณ์ไม่จำต้องจัดให้มีหลักทรัพย์มาค้ำประกันการเสียภาษีอากรในกรณีที่ภาษีอากรที่ต้องชำระมีจำนวนเงินไม่เกิน 50,000 บาท เช่นเดียวกับกฎหมายของประเทศฝรั่งเศสที่กำหนดให้ ผู้ต้องเสียภาษีอากรต้องมีทรัพย์สินมาค้ำประกันการชำระหนี้ภาษีอากร แต่ถ้าภาษีอากรที่ประเมินต่ำกว่า 3,000 ยูโร(1 ยูโรเป็นเงินประมาณ 43.21 บาท) ผู้ต้องเสียภาษีอากรไม่ต้องมีทรัพย์สินมาค้ำประกันภาษีอากรที่ต้องชำระ และควรกำหนดระยะเวลาในการพิจารณาคำร้องขอทุเลาการเสียภาษีอากร กรณีหลักประกันเป็นหนังสือค้ำประกันของธนาคาร หรือพันธบัตรรัฐบาล หรือสมุดเงินฝากประจำธนาคารพาณิชย์ให้แล้วเสร็จภายในเวลา 15 วัน ส่วนการพิจารณาคำร้องขอทุเลาการเสียภาษีอากรกรณีนำอสังหาริมทรัพย์มาจดทะเบียนจำนองเป็นประกันให้แล้วเสร็จภายในเวลา 30 วัน นับแต่วันที่ผู้อุทธรณ์ยื่นคำร้องขอทุเลาการเสียภาษีอากร พร้อมกับกำหนดด้วยว่า หากอธิบดีกรมสรรพากรยังพิจารณาคำร้องขอทุเลาการเสียภาษีอากรไม่แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ให้ถือว่า คำสั่งทางปกครองที่เกิดขึ้นนั้น มีเนื้อความเป็นการอนุญาตตามคำขอของผู้ยื่นคำร้องขอทุเลาการเสียภาษีอากร

DOWNLOAD : ปัญหาเกี่ยวกับการทุเลาการเสียภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร