The Study of Factors Influencing Consumers’ Behaviors in Purchasing PDA in Bangkok

โดย อาจณรงค์ แสงแจ่ม

ปี     2550

บทคัดย่อ (Abstract)

งานวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อและพฤติกรรมการซื้อพีดีเอของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครที่ใช้พีดีเอ จำนวนทั้งหมด 400 ตัวอย่าง โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ สถิติพื้นฐาน ประกอบด้วย จำนวน (ความถี่) ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนสถิติเพื่อการทดสอบสมมติฐานประกอบด้วย การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ ไค-สแควร์ (Chi – Square Test) การวิเคราะห์ค่าความแปรปรวนทางเดียว (One-Way ANOVA) และการวิเคราะห์สถิติสหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์สัน (Pearson Product Moment Correlation Coefficient) โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป SPSS for Windows เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ข้อมูลและทดสอบทางสถิติ

ผลการวิจัยพบว่า ผู้บริโภคเป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชาย ส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 25–34 ปีการศึกษาระดับปริญญาตรี สถานภาพโสด เป็นพนักงานบริษัทเอกชน/รับจ้าง มีรายได้ส่วนบุคคลเฉลี่ยต่อเดือนต่ำกว่าหรือเท่ากับ 10,000 บาท และผู้บริโภคมีระดับการใช้งานพีดีเอโดยรวมในระดับมาก โดยใช้พีดีเอในลักษณะการใช้งานเป็นโทรศัพท์ ฟังเพลง/ดูวีดิโอ/บันทึกภาพ ส่วนใหญ่ใช้ในการทำงานส่วนตัว และในส่วนของการให้ระดับความสำคัญต่อส่วนประสมการตลาด พบว่า ผู้บริโภคให้ระดับความสำคัญโดยรวมในระดับมาก โดยให้ความสำคัญในระดับมากที่สุดในด้านราคาและช่องทางการจัดจำหน่าย และให้ความสำคัญในระดับมากในด้านผลิตภัณฑ์และการส่งเสริมการตลาด

ในส่วนการวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อ พบว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่ใช้พีดีเอยี่ห้อ O2รองลงมาคือ ยี่ห้อ PALM โดยมีการตัดสินใจซื้อพีดีเอด้วยตนเอง ข้อมูลที่ใช้ในการตัดสินใจซื้อส่วนใหญ่ได้รับจากบุคคลในครอบครัว/ญาติพี่น้อง/เพื่อน ซื้อด้วยวิธีชำระด้วยเงินสด ส่วนใหญ่ซื้อที่ห้างสรรพสินค้า/ซุปเปอร์สโตร์ ราคาที่ซื้ออยู่ระหว่าง 10,001-20,000 บาท และราคาซื้อพีดีเอเฉลี่ยอยู่ที่ 21,326 บาท และในส่วนของแนวโน้มพฤติกรรมการซื้อพีดีเอ พบว่า ผู้บริโภคมีแนวโน้มพฤติกรรมการใช้พีดีเอต่อไปในอนาคตโดยมีแนวโน้มพฤติกรรมการในการซื้อพีดีเอเครื่องใหม่ในอีก2-3 ปีข้างหน้า และมีแนวโน้มที่จะซื้อพีดีเอเครื่องใหม่ที่เป็นยี่ห้อเดิม รวมทั้งมีแนวโน้มที่จะแนะนำเพื่อน/ญาติ/คนรู้จักให้ซื้อพีดีเอ โดยแนะนำให้บุคคลอื่นซื้อพีดีเอยี่ห้อเดียวกัน

ในการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้บริโภคด้านอายุมีความสัมพันธ์กับยี่ห้อ พีดีเอที่ซื้อ สถานที่ซื้อ และแหล่งข้อมูลในการตัดสินใจซื้อในด้านของตัวแทนจำหน่ายหรือพนักงานขายและในด้านนิตยสาร/หนังสือเกี่ยวกับพีดีเอ แต่ไม่มีความสัมพันธ์กับแหล่งข้อมูลในการตัดสินใจซื้อในด้านบุคคลในครอบครัว อินเตอร์เน็ต และจากโฆษณาทางสื่อต่างๆ ในส่วนของระดับการศึกษา พบว่า มีความสัมพันธ์กับยี่ห้อพีดีเอ และแหล่งข้อมูลในการตัดสินใจซื้อด้านโฆษณาทางสื่อต่าง ๆ แต่ไม่มีความสัมพันธ์กับสถานที่ที่ซื้อ และในส่วนของรายได้เฉลี่ยส่วนบุคคลต่อเดือนมีความสัมพันธ์กับแหล่งข้อมูลในการตัดสินใจซื้อในด้านตัวแทนจำหน่าย/พนักงานขาย แต่ไม่มีความสัมพันธ์กับยี่ห้อที่ซื้อ แหล่งข้อมูลในการตัดสินใจซื้อในด้านบุคคลในครอบครัว โฆษณาทางสื่อต่าง ๆ อินเตอร์เน็ต และสถานที่ซื้อ ส่วนการทดสอบความแตกต่างพบว่า อายุ ระดับการศึกษา และรายได้ส่วนบุคคลเฉลี่ยต่อเดือนที่แตกต่างกันมีการซื้อพีดีเอที่ราคาไม่แตกต่างกัน และในการทดสอบความสัมพันธ์ของส่วนประสมทางการตลาดกับแนวโน้มพฤติกรรมการซื้อพีดีเอ พบว่า ส่วนประสมการตลาดที่ใช้ประกอบการตัดสินใจซื้อพีดีเอมีความสัมพันธ์กับแนวโน้มพฤติกรรมการซื้อพีดีเอ โดยมีความสัมพันธ์ในด้านแนวโน้มการใช้พีดีเอต่อในอนาคต การซื้อพีดีเอใหม่ในอีก 2-3 ปี และจะซื้อพีดีเอใหม่ ยี่ห้อเดิม รวมทั้งมีความสัมพันธ์กับการแนะนำให้บุคคลอื่นใช้พีดีเอ และแนะนำบุคคลอื่นซื้อพีดีเอ ยี่ห้อเดียวกัน และความสัมพันธ์นี้มีทิศทางไปในทางเดียวกัน

DOWNLOAD