The Museum of Thai Country Music

โดย รวีวรรณ เข็มทอง

ปี 2553

บทนำ

เมื่อพูดถึง “เพลงลูกทุ่ง” บางคนอาจเบือนหน้าหนี มองว่าเชย แต่ความเป็นจริงแล้วภาพรวมในสังคมไทยของเพลงลูกท่งไม่มีคำว่าล้าสมัย เพราะบทเพลงต่างๆ ล้วนมีเสน่ห์ในอัตตาลักษณ์ของภาษา พร้อมทั้งถ่ายทอดบนทึกเรื่องราวแต่ละยุคสมัยได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญเพลงลูกทุ่งยังอยู่คู่กับชีวิตคนไทยเสมอมา เพียงแต่เราอาจจะไม่รั้วเท่านั้นเอง

เพลงลูกทุ่ง เป็นเพลงที่สะท้อนวิถีชีวิต สภาพสังคมอุดมคติและวัฒนธรรมไทยอย่างหนึ่งที่สืบเนื่องมาจากเพลงพื้นบ้านที่ใช้ร้องเล่นกันโดยทั่วไป ตามชนบทของไทย โดยมีท่วงทำนอง คำร้อง สำเนียง และลีลาการร้องการบรรเลงที่ใช้ภาษาง่ายๆ ตรงไปตรงมา ไม่สลับซับซ้อนมีลักษณะเฉพาะซึ่งให้บรรยากาศความเป็นลูกทุ่ง เป็นที่นิยมของประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนในชนบทให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพลงลูกทุ่งหลายเพลงได้สะท้อนถึงสภาพสังคม ความเป็นอยู่และวัฒนธรรมไทยที่มีอิทธิพลต่อวิถีของคนไทย

ปัจจุบันการแสดงออกทางด้านศิลปวัฒนธรรมของไทย โดยเฉพาะด้านดนตรีถูกอิทธิพลของชาติตะวนตกและชาติตะวันออกเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทำให้ค่านิยมของเยาวชนและวัยรุ่นไทยเปลี่ยนไปตามกระแสของต่างชาติและไม่สนใจศิลปะด้านดนตรีของไทย โดยเฉพาะเพลงลูกทุ่งไทยที่ในปัจจุบันมีผู้นิยมฟังเพลงเพียงบางส่วนเท่านั้น ภาพสะท้อนของสังคมปัจจุบันโดยเฉพาะเมืองหลวง มีอะไรบ้างที่ยังหลงเหลือความเป็นไทยยู่ให้เห็น ภาษา วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีหรือแม้แต่การดำรงชีวิต ได้ถูกกลืนหายไปกับกระแสอารยะรรมตะวันตกที่ไหลบ่าเข้ามาผ่านสื่อต่างๆ โดยปราศจากการเลือกสรรกลั่นกรอง จนเกิดการครอบงำทางวัฒนธรรม ในขณะเดียวกันก็สร้างค่านิยมและทัศนคติที่ขัดแย้งระหว่างคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ สภาพวิถีชีวิตไทยเอกลักษณ์วัฒนธรรมที่ดีงามถูกเบี่ยงเบนแลเปลี่ยนแปลง จนทำให้ตัวตนและจิตวิญญาณที่แท้จริงของความเป็นไทยเหลือน้อยลงไปทุกที

คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ พิจารณาแล้วเห็นว่า เพลงลูกทุ่งเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของชาติ สมควรจะอนุรักษ์ ส่งเสริมและเผยแพร่ให้แพร่หลายต่อไป และในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กรทรวงศึกษาธิการในฐานะหน่วยงานของรัฐได้เข้าไปมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมเพลงลูกทุ่งไทยอย่างต่อเนื่องตลอดมา การส่งเสริมเพลงลูกทุ่งไทยของสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาตินั้น เริ่มมาตั้งแต่ พ.ศ. 2532 โดยในครั้งนั้นเป็นช่วงที่วงการเพลงลูกทุ่งได้ผ่านพ้นยุคทองสูงสุดมาแล้ว วงดนตรีลูกทุ่งที่เคยเดินสายเปิดการแสดงอย่างต่อเนื่องยาวนาน มีการจองวัน เวลาล่วงหน้าเป็นปี กำลังซบเซาจนมีผู้ห่วงกังวลว่าเพลงลูกทุ่งอาจตายไปจากความทรงจำของประชาชนเหมือเพลงพื้นบ้านอื่นๆ ที่ค่อยๆ เลือนหายไปจากความนิยมเหลือไว้แต่เพียงตำนานเล่าขานถึงความรุ่งเรืองในอดีตที่ผ่านมา จึงคิดทำโครงการการเรียนรู้เพลงลูกทุ่งไทย เพื่อส่งเสริมเพลงลูกทุ่งไทยและเก็บรักษา เผยแพร่ ดนตรีลูกทุ่งไทยให้เยาวชนรุ่นหลังและประชาชนได้รับรู้และซึมซับวัฒนธรรมของเพลงลูกทุ่งไทยที่มีมากกว่า 60 ปีต่อไป จุดประกายความเป็นไทยให้เด่นชัดกว่าเดิม และเล่าขานตำนานลูกทุ่งไทยและอาจทำให้เพลงลูกทุ่งได้รับการพัฒนาแนวดนตรี แนวการร้องจากคนรุ่นหลังเพื่อก้าวไปสู่ระดับสากลด้วย

จึงได้ตระหนักถึงความสำคัญของเพลงลูกทุ่ง จึงมีโครงการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้เพลงลูกทุ่งไท เพื่อเป็นศูนย์กลางในการศึกษาและรวบรวม เพลง ทั้งเก่าและใหม่และเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับเพลงลูกทุ่ง นำเสนอแง่มุมในหน้าประวัติศาสตร์วงการลูกทุ่งไทย แสดงให้เห็นการคลี่คลายจากเพลงไทยเดิมและเพลงพื้นบ้านผสมผสานเข้ากับรูปแบบดนตรีตะวันตก ที่ได้มีการพัฒนารูปแบบอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพสังคม เศรษฐกิจไทยที่เปลี่ยนแปลงไป ตลอดครึ่งทศวรรษที่ผ่านมา

Download : โครงการเสนอแนะออกแบบสถาปัตยกรรมภายในพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ลูกทุ่งไทย