Effects of Laundering on the Color Change and Dimensional Stability of Pique-Structure Knitwear Products: A Case Study of Playboy Brand
โดย ศิรินภรณ์ พึ่งฮั้ว
ปี 2562
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาปัญหาการซักล้างในผลิตภัณฑ์ เสื้อผ้าถักโครงสร้าง ปีเก้ของตราสินค้าเพลย์บอย ทดสอบการเปลี่ยนแปลงของสีและขนาดของผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าถักโครงสร้าง ปีเก้ และศึกษาประสิทธิภาพการซักล้างในผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าถักโครงสร้างปีเก้
วิธีดำเนินการวิจัยคือ ศึกษาปัญหาการซักล้างผลิตภัณฑ์ผ้าถักโครงสร้างปีเก้ของตราสินค้าเพลย์บอย สำรวจความพึงพอใจของผู้บริโภคภายหลังการซักล้าง ด้วยแบบสอบถาม จำนวน 100 ชุด ในเขตกรุงเทพมหานคร วางแผนการทดลองแบบแฟคทอเรียลแบบสุ่มสมบูรณ์ (Factorial in CRD) มีปัจจัยในการศึกษา 3 ปัจจัย ประกอบด้วย 1) สารซักล้าง คือ ชนิด ผง และ น้ำ 2) เครื่องซักผ้า คือ แบบใส่ผ้าด้านหน้า และ ด้านบน และ 3) จำนวนรอบการซัก คือ 1 3 5 และ 30 รอบ การทดสอบเปลี่ยนแปลงของสีและขนาดใช้มาตรฐานการทดสอบของ AATCC และ ISO และ ศึกษาประสิทธิภาพการซักล้างในผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าถักโครงสร้างปีเก้สีดำ จากนั้นนำผลมาเปรียบเทียบและวิเคราะห์ประสิทธิภาพการซักล้าง ด้วยสถิติการวิเคราะห์ความแปรปรวน (ANOVA) และเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยสิ่งทดลองด้วยสถิติ Duncan’s New Multiple Rang Test (DMRT)
ผลการศึกษา พบว่า ปัญหาการซักล้างผู้บริโภค ส่วนใหญ่ คือ เพศหญิงคิดเป็นร้อยละ 64 คน พบปัญหาคุณภาพการซักล้างในด้านขนาดเสื้อเปลี่ยนรูปทรงมีค่าเฉลี่ย 2.80[ด็อทพลัส]1.28 สีผ้าซีดจาง ค่าเฉลี่ย 2.65 [ด็อทพลัส]0.94 ผลการเปลี่ยนแปลงของสีและขนาด พบว่า ค่าความแตกต่างของสี ([วาทายแองเกิลE]) อยู่ในช่วง 0.16 – 0.52 การเปลี่ยนแปลงของสีอยู่ในระดับ 4.0 – 4.5 การติดเปื้อนของสีอยู่ในระดับ 4.5 การหดตัวของเสื้อเกรนผ้าด้านยาวน้อยกว่าเกรนผ้าด้านกว้างอยู่ในช่วงร้อยละ 0.66-3.50 และ 3.25-5.00 ตามลำดับ และ ผลประสิทธิภาพการซักล้างพบว่า เครื่องซักผ้าแบบใส่ผ้าด้านบน มีลักษณะขนผ้าเกิดขึ้นบางตำแหน่ง ส่วนเครื่องซักผ้าแบบใส่ผ้าด้านหน้า เกิดขนกระจายอยู่ทั่วตัวเสื้อ ลักษณะการจัดกลุ่มประสิทธิภาพการใช้งานพบว่าสารซักล้างชนิดน้ำเหมาะกับการซักล้างทั้งเครื่องซักผ้าแบบใส่ผ้าด้านบนและ ด้านหน้า ในจำนวนรอบการซัก 30 รอบ และช่วยถนอมผ้าได้ดีกว่าสารซักล้างชนิดผง
Abstract
The objectives of this research were to study problems in laundering Pique-structure knitwear of Playboy brand., the color change and dimensional stability, and the laundering efficiency in Pique-structure knitwear products.
The research methodology included investigating washing knitwear products problems in the Pique-structure of Playboy brand., distributing questionnaires in Bangkok to ask for consumers’ satisfaction after washing, employing Factorial in the CRD experiment plan studying three factors namely 1) powder and liquid powder control detergent, 2) top-load and front-load washing machines, and 3) washing cycles at 1, 3, 5, and 30. Color change and dimensional stability of the products were tested by means of AATCC and ISO testing standards and study the laundering efficiency of black color knitwear. After washing, comparison and analysis of the laundry efficiency were undertaken by means of ANOVA, and the average differences, by means of Duncan’s New Multiple Range Test (DMRT).
It was found that 64% of female consumers faced the following laundering problems: the dimensional stability at the average of 2.80 [dotplus] 1.28 and color change at the average of 2.65 [dotplus] 0.94. In relation to color change, the differences of the color were in the range of 0.16 – 0.52 while the color change was at the range of 4.0 – 4.5 and the color staining was at 4.5. Shrinkage of length of polo shirt fabric was less than wide-width cloths in the range of 0.66-3.50 and 3.25-5.00 percent, respectively. Concerning the laundering efficiency, it was found that the top-load washing machine brought about the cloth fuzzing in some parts of the clothes while the front-load caused the cloth fuzzing in all parts of the clothes. In addition, liquid detergent was suitable for both top-load and front-load washing machine, with 30 washing cycles, and had better performance than powder detergent.